คลังเก็บหมวดหมู่: การเงิน

Cash is not as safe as you might think

ในบทความที่ผ่านๆ มาผู้อ่านจะพบว่ามุมมองของผู้เชี่ยวชาญของจูเลียส์ แบร์นั้นไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิดการถดถอย

ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น การบริโภคในภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนนั้นยังมีความแข็งแรง แม้อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่แล้วจากเหตุการณ์ในเดือนมี.ค.2566 ที่ผ่านมาถือว่าสร้างความเซอร์ไพร์สอย่างมากกับตลาดการเงิน

ซึ่งที่ผ่านมานั้นไม่ได้มีการคาดการณ์หรือการส่งสัญญานมาก่อนว่าจะเกิดความเสี่ยงเชิงระบบจนกระทั่งเกิดการปิดตัวลงของธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งในช่วงแรกนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เฉพาะตัว เนื่องจากรูปแบบการทำธุรกิจที่เฉพาะตัวโดยเน้นให้บริการกับบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีและ Venture Capital ในซิลิคอนวัลเลย์

รวมไปถึงการบริหารในส่วนของสินทรัพย์ที่ผิดพลาดสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงินต่อธนาคารอื่นๆ ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะธนาคารท้องถิ่นในสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2018 ที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้มีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ทำให้ธนาคารขนาดกลางและเล็กนั้นมีการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก

โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (Commercial Real Estate) ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ช่องทางออนไลน์รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ว่างของออฟฟิศเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ข่าวการเงินล่าสุด

ความกังวลนั้นไม่เพียงแต่จำกัดแค่ในภาคการเงินของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ได้ลามไปต่อที่สถาบันการเงินในยุโรปโดยเฉพาะธนาคารที่มีสถานะทางการเงินที่อ่อนแออย่างเช่น Credit Suisse ทั้งนี้ตลาดเงินได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วจากเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นข้างต้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากการคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในช่วงข้างหน้า

ขณะที่ส่วนต่างของ Credit Spread ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นนั้นกลับแข็งแรงกว่าที่คิด เนื่องจากนักลงทุน Rotation จากกลุ่ม Value โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารหันกลับไปเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นคุณภาพขนาดใหญ่ รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งตลอดปีที่ผ่านมานั้นได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

ขณะที่ทองคำก็ปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กล่าวโดยสรุปเมื่อดูจากการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทางการเงินนั้นสะท้อนว่าจากปัญหาในภาคธนาคารอาจจะกลายเป็นความเสี่ยงเชิงระบบได้ ซึ่งจากข้อมูลในอดีตเราจะพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ความเสี่ยงเชิงระบบที่ไม่ได้คาดการณ์มาก่อนจะสามารถทำให้เกิดการถดถอยในเศรษฐกิจได้อย่างง่ายดาย

สิ่งที่น่ากังวลในครั้งนี้อย่างหนึ่งคือทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้การที่ทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯและยุโรปยังมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยกดดันมากขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้เรามองว่าจากภาวะปัจจุบันนั้นควรที่จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและติดตามปัญหาในภาคการเงินอย่างรอบด้านเนื่องจากภาวะทางการเงินที่ตึงตัวอย่างมากจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นชะลอตัวลง และยิ่งเมื่อเกิดปัญหาในภาคการเงิน การปล่อยกู้หรือการรีไฟแนนซ์จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นและรัดกุมมากขึ้นซึ่งปัจจัยความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความเสี่ยงที่จะถดถอยเพิ่มมากขึ้น

อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้คือการปิดตัวลงของ Credit Suisse สถาบันการเงินใหญ่อันดับสองของสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งถูกทางการให้ธนาคาร UBS เข้าทำการควบรวมซึ่งนับว่าเป็นดีลประวัติศาสตร์แต่เรื่องที่สร้างความประหลาดใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือการที่หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสวิสเซอร์แลนด์ให้มีการ Write down หรือตีมูลค่าเป็นศูนย์ต่อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ธนาคารพาณิชย์สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือมักจะรู้จักกันในนามว่า Contingent Convertible หรือ CoCo Bond แนะนำข่าวเพิ่มเติม>>> เจนเนอราลี่-KKP จับลูกค้าเวลท์ ขายประกันออมทรัพย์ การันตีเงินคืน 3%

เจนเนอราลี่-KKP จับลูกค้าเวลท์ ขายประกันออมทรัพย์ การันตีเงินคืน 3%

เจนเนอราลี่-KKP จับลูกค้าเวลท์ ขายประกันออมทรัพย์ การันตีเงินคืน 3%

เจนเนอราลี่ประกันชีวิต จับมือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เจาะลูกค้าเวลท์ ขายประกันออมทรัพย์ ชำระเบี้ยครั้งเดียว 5 แสนบาท การันตีเงินคืน 3% ต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจนเนอราลี่ไทยแลนด์ ได้ร่วมมือกับ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร สร้างความคึกคักส่งท้ายปี ด้วยแผนประกันชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “KKPGEN WEALTH 5/1 (SP)” ประกันสะสมทรัพย์ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อลูกค้ากลุ่มเวลท์ของธนาคารเกียรตินาคินภัทรโดยเฉพาะ

การเงิน

  • ชำระเบี้ยสั้นเพียง 1 ปี รับความคุ้มครองชีวิต 5 ปี
  • รับเงินคืน 3% ทุกปี (ของจำนวนเงินเอาประกันภัย) ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-4
  • ครบกำหนดสัญญารับเงินคืน 103%
  • รับผลประโยชน์ตลอดสัญญารวม 115%

เงื่อนไขเกี่ยวกับการรับประกันภัย

  • อายุรับประกันภัย: 1 เดือน-65 ปี (ตามหลักเกณฑ์การคำนวณอายุเกณฑ์อายุใกล้วันเกิดหากเกินวันเกิดล่าสุด ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ให้ปัดอายุขึ้น)
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย: 5 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย: ครั้งเดียว
  • จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ: 500,000 บาท
  • อัตราเบี้ยประกันภัยรายปี: 1,000 บาท ต่อจำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000 บาท (สำหรับทุกอายุและทุกเพศ)
  • การตรวจสุขภาพ: ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการตรวจสุขภาพในการทำประกันตามเงื่อนไขและ กฎเกณฑ์ของบริษัท

แนะนำข่าวการเงินเพิ่มเติม : ธอส.ออกสลากออมทรัพย์ วิมานเมฆ Plus ลุ้นรางวัลที่หนึ่งรับ 3 ล้านทุกเดือน

ธอส.ออกสลากออมทรัพย์ วิมานเมฆ Plus ลุ้นรางวัลที่หนึ่งรับ 3 ล้านทุกเดือน

ธอส.ออกสลากออมทรัพย์ วิมานเมฆ Plus ลุ้นรางวัลที่หนึ่งรับ 3 ล้านทุกเดือน

ธอส.ส่งสลากออมทรัพย์ชุด วิมานเมฆ Plus หน่วยละ 1 ล้านบาท อายุ 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.45% ต่อปี ลุ้นรับรางวัลที่ 1 มูลค่าสูงถึง 3 ล้านบาท เริ่มออกรางวัลครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. 65เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. กล่าวว่า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนที่ต้องการออมเงินและลงทุนกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง สอดคล้องกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.00% ต่อปีล่าสุด ธอส. จึงได้จัดทำผลิตภัณฑ์ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุด วิมานเมฆ Plus สลากออมทรัพย์พรีเมียมหน่วยละ 1 ล้านบาท จำนวน 27,000 หน่วย (แบ่งเป็น 3 หมวดๆ ละ 9,000 หน่วย) กรอบวงเงินรวม 27,000 ล้านบาท อายุสลาก 2 ปี เมื่อฝากครบกำหนดรับผลตอบแทนหน้าสลาก 1.45% ต่อปี

ข่าวการเงิน

โดยจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมหน่วยละ 1,029,000 บาท อีกทั้งยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือนรวม 24 งวด โดยรางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัลสูงถึงรางวัลละ 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (เสี่ยงหมวด)รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 รางวัลละ 100,000 บาท จำนวน 2 รางวัล (หมวดเดียวกับรางวัลที่ 1) และรางวัลที่ 2 รางวัลละ 20,000 บาท จำนวน 40 รางวัลต่อหมวด คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.4444% และยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับดอกเบี้ยและเงินรางวัลอีกด้วยสำหรับสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆ Plus ถือเป็นสลากชุดใหม่ที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนสลากออมทรัพย์ชุดวิมานเมฆ ซึ่งเป็นสลากชุดแรกของ ธอส. เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2562 ก่อนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และเป็นสลากพรีเมียมที่ได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมากเนื่องจากมีความแตกต่างจากสลากออมทรัพย์ที่มีอยู่ในตลาดช่วงเวลานั้น โดยมีประชาชนแจ้งความประสงค์ซื้อสลากออมทรัพย์ชุดวิมานเมฆถึง 46,384 ล้านบาท จากกรอบวงเงินรวมซึ่งกำหนดไว้ที่ 27,000 ล้านบาททั้งนี้ จึงเชื่อว่าการจัดทำสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆ Plus ในครั้งนี้ซึ่งเพิ่มรางวัลที่ 1 ให้สูงขึ้นเป็น 3 ล้านบาท และผลตอบแทนเมื่อฝากครบกำหนดสูงถึง 1.45% ต่อปี จะทำให้สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆ Plus ได้รับความสนใจจากประชาชนเช่นเดิมสำหรับสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆ Plus เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเต็มกรอบวงเงิน 27,000 ล้านบาท ออกรางวัลครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. 65 ผู้ที่สนใจสามารถซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ผ่านสาขาหรือแอปพลิเคชันของธนาคาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ.